การรีไฟแนนซ์ หลาย ๆ คนที่เคยกู้ยืมเงินเพื่อซื้อบ้าน หรือสร้างบ้านคงคุ้นเคยกับคำนี้เป็นอย่างดี การรีไฟแนนซ์คือการกู้ยืมเงินกับ...

รีไฟแนนซ์เพื่อการลงทุน

/
0 Comments





การรีไฟแนนซ์หลาย ๆ คนที่เคยกู้ยืมเงินเพื่อซื้อบ้าน หรือสร้างบ้านคงคุ้นเคยกับคำนี้เป็นอย่างดี การรีไฟแนนซ์คือการกู้ยืมเงินกับอีกธนาคาร ในช่วงที่ดอกเบี้ยมีราคาถูกกว่าธนาคารเดิม และปิดยอดค้างชำระเก่าไป และมามีหนี้ผูกพันธ์กับธนาคารใหม่แทน ทั้งนี้อาจมีเงินเหลืออีกหนึ่งก้อนให้เราไว้ใช้ในยามฉุกเฉินได้อีก วิธีการดังกล่าวนี้จะเป็นวิธีการโดยทั่วไปที่ใช้บุคคลธรรมดาใช้กันส่วนหนึ่ง เพื่อนำเงินส่วนต่างมาปิดยอดบัตรเครดิต หรือใช้จ่ายในครอบครัว

แต่ในแง่ของนักลงทุนไม่เพียงเป็นการปรับลดดอกเบี้ยของเราลงเท่านั้น ยังจัดให้เป็นการระดมทุนได้อีกด้วย และนักลงทุนหลาย ๆ คนก็ไม่ควรพลาดในกลยุทธ์นี้เช่นเดียวกัน ฉะนั้นในเมื่อเราได้เดินทางมาอยู่ในสายการลงทุน ก็ไม่ควรพลาดการติดตามข่าวสารของธนาคารอยู่เสมอ ทั้งต่างสถาบันการเงินที่จัดโปรโมชั่นการรีไฟแนนซ์ หากคำนวณแล้วสามารถลดทอนดอกเบี้ยได้มากกว่า 1% ขึ้นไป จะเป็นจุดคุ้มค่าเป็นอย่างมาก หรือแม้แต่สถาบันการเงินเดิมที่เราทำสัญญาเงินกู้อยู่ก็ตาม ที่ให้เราสามารถรีไฟแนนซ์ได้ก็จะทำให้เรามีข้อได้เปรียบมากยิ่งขึ้นไปได้อีก เพราะค่าใช้จ่ายในการประเมิน รวมไปจนถึงค่าใช้จ่ายในการกู้ยืมเงิน และค่าธรรมเนียมหลาย ๆ อย่างก็สามารถประหยัดลงไปได้ แต่อย่างไรแล้วต้องขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของระยะเวลาด้วยว่า เราจะสามารถรีไฟแนนซ์ได้ก็ต่อเมื่อเราได้ชำระมาแล้วเป็นระยะเวลากี่ปี หากเราไถ่ถอนก่อนระยะเวลาที่กำหนด อาจต้องเสียค่าธรรมเนียมให้กับสถาบันเงิน ซึ่งในส่วนนี้ก็ต้องพิจารณา และคำนวนกันให้รอบคอบว่าถึงจุดคุ้มค่าแล้วหรือยัง และจะมีผลไปจนถึงความต้องการในการระดมทุนของผู้ลงทุนด้วย เนื่องจากหากเราได้ผ่อนชำระกับสถาบันการเงินไปแล้วระยะหนึ่ง ก็จะมีผลทำให้ยอดหนี้ของเราลดลงไป และอสังหาริมทรัพย์นั้นอาจมีการเพิ่มค่าขึ้น ก็จะทำให้เราได้รับส่วนต่างเงินก้อนมาจำนวนหนึ่งเพื่อใช้ในการลงทุนในส่วนอื่น ๆ ได้ด้วย ซึ่งในส่วนของดอกเบี้ยก็ยังคงได้รับในอัตราที่ไม่สูงมากนัก เพราะยังอยู่ในระหว่างช่วงโปรโมชั่นภายในกำหนดระยะเวลา 3 หรือ 5 ปีนั่นเอง


หลักสำคัญเบื้องต้นในการพิจารณาว่าเราควรจะรีไฟแนนซ์หรือไม่  ได้แก่
  • คำนวนค่าใช้จ่ายส่วนเพิ่มให้รอบคอบไม่ว่าจะเป็นค่าธรรมเนียมวงเงินกู้ใหม่ ค่าตรวจเช็คเครดิตบูโร ค่าประเมินหลักทรัพย์ เบี้ยประกันภัย ค่าธรรมเนียมจดจำนอง หรืออาจจะมีค่าเบี้ยปรับในกรณีที่เราชำระคืนก่อนกำหนด เพื่อประเมินว่าค่าใช้จ่ายที่เสียไปในส่วนนี้นั้น จะคุ้มค่ามากน้อยแค่ไหนในอนาคต 
  • ในบางกรณีดอกเบี้ยที่ถูกลงอาจมีผลทำให้เราต้องจ่ายชำระรายเดือนมากขึ้นไปอีก แต่โดยรวมก็ยังถือว่าคุ้มค่า แต่ก็ต้องกลับมาดูกันอีกครั้งว่ากระแสเงินสดในแต่เดือนของเรานั้นเพียงพอหรือไม่ เพราะหากเกิดการขัดสนขึ้นมาแล้วอาจะทำให้เราต้องไปกู้ยืมจากส่วนอื่นมาจ่ายชำระ ทำให้ต้องเสียดอกเบี้ยเพิ่มขึ้นไปอีก
  • สิทธิประโยชน์ทางภาษี ต้องไม่ลืมพิจารณาด้วย เพราะจะทำให้เราสามารถสามารถประหยัดไปได้อีกเช่นกัน
  • หากผลประโยชน์ส่วนเพิ่ม ที่เราได้รับคิดเป็นเปอร์เซนต์ออกมาแล้วยังไม่ถึงจุดคุ้มค่าที่จะรีไฟแนนซ์ก็อาจต้องระงับไปก่อน เพราะส่วนต่างที่ได้รับหากน้อยจนเกินไปอาจทำให้เราเสียเวลาในการลงทุนกับอสังหาริมทรัพย์ตัวอื่น ๆ ได้ เพราะอย่างไรแล้ว “เวลา” เป็นสิ่งสำคัญ และมีค่าต่อนักลงทุนในทุก ๆ วินาที




You may also like

ไม่มีความคิดเห็น:

ขับเคลื่อนโดย Blogger.