ปกติ การลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ ให้ประสบผลสำเร็จนั้น เจ้าของอสังหาริมทรัพย์ต้องรู้หนทาง วิธีการ รู้จักการประยุกต์ใช้ พลิกแพลง ให้เหม...




ปกติการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ให้ประสบผลสำเร็จนั้น เจ้าของอสังหาริมทรัพย์ต้องรู้หนทาง วิธีการ รู้จักการประยุกต์ใช้ พลิกแพลง ให้เหมาะสมกับทรัพย์สินของตน เช่นการลงทุนทาวน์เฮ้าเราจะได้รับผลตอบแทนใน 2 รูปแบบด้วยกันคือ รายได้ในรูปแบบของรายได้ค่าเช่าและผลกำไรจากการขาย ซึ่งผลกำไรจากการขายในบางครั้งต้องใช้ระยะเวลาในการรอคอยมาก อาจ 3 ปี 5 ปี หรือ 10 ปี เพื่อให้สภาพทาวน์เฮ้าเป็นที่ตาดึงดูดใจกับผู้เช่าและผู้ซื้อมากขึ้น 

ดังนั้นเราจะมีวิธีการใดที่จะสามารถทำให้ราคาหรือมูลค่าเพิ่มขึ้นได้อย่างรวดเร็วและใช้ระยะเวลาไม่นาน  วิธีการดังกล่าวนี้ก็คือการปรับปรุง ตกแต่ง แปลงโฉมทาวน์เฮ้าที่เก่าทรุดโทรมให้กลับมาดูดี วิธีที่นิยมทำกันในการปรับปรุงทาวน์โดยหลักๆ มีดังนี้

1. การทำความสะอาดทาวน์เฮ้า ให้ดูสะอาดสะอ้าน ขจัดสิ่งที่รกรุงรังออกให้หมด ช่วยให้ทาวน์เฮ้าดูกว้างขวางขึ้น เป็นวิธีที่ง่ายและได้ผลดีรวมทั้งประหยัดค่าใช้จ่าย

2. การทาสีทั้งภายในและภายนอก ให้ดูทันสมัย สะอาดตาและดูกว้างขวางขึ้น

3. ปรับปรุงซ่อมแซมส่วนที่เสียหาย เช่น  ซ่อมแซมผนังที่เป็นรู บานหน้าต่างชำรุด หลังคารั่ว ก๊อกน้ำชำรุด ห้องน้ำรั่วซึม ให้มีสภาพดีสามารถใช้งานได้

4. รื้อส่วนที่รกรุงรัง มืดทึบ ขจัดมุมที่ไม่ดีของบ้านออกไป พร้อมเพิ่มแสงสว่างตามธรรมชาติให้เข้าถึงตัวบ้านได้

5. เพิ่มพื้นที่สีเขียวโดยอาจนำกระถางต้นไม้มาตกแต่งให้ดูเย็นสบายตา เพิ่มม้าหินอ่อนสำหรับนั่งเล่น 

6. ปรับขนาดพื้นที่ใช้สอยให้มีความเหมาะสมกับการใช้ประโยชน์ เช่น บางห้องมีพื้นที่ใหญ่มากเกินไป บางห้องมีขนาดเล็กไม่เหมาะสม ก็ควรแยกหรือกั้นห้องให้มีขนาดเหมาะสม 

นอกจากวิธีการที่กล่าวมาเบื้องต้นแล้ว เจ้าของทาวน์เฮ้าเองซึ่งรู้ทุกมุมภายในบ้านจึงต้องมีความคิดสร้างสรรค์ จินตนาการ ความชอบส่วนตัว การขอคำแนะนำจากผู้รู้ สถาปนิก รวมถึงแนวคิดมุมมองจากหนังสือหรือนิตรสารต่างๆ ทั้งนี้ต้องคำนึงถึงค่าใช้จ่ายที่จะตามมาด้วยว่าการปรับปรุงในแต่ละวิธีมีค่าใช้จ่ายมากน้อยเพียงใด คุ้มค่ากับรายได้ที่เพิ่มขึ้นหรือส่วนต่างราคาที่เพิ่มขึ้นหรือไม่  เพื่อเนรมิตบ้านให้น่าอยู่อาศัยและท้ายที่สุดแล้วก็จะช่วยเพิ่มมูลค่าบ้านให้ได้รับค่าเช่า หรือขายได้ราคาเพิ่มขึ้น

TAG : การลงทุนที่ดิน , การลงทุนคอนโด , การลงทุนตึกแถว , การลงทุนทาวน์เฮ้าส์


“ วัยเกษียณ ” เมื่อพูดถึงคำนี้แล้วทุกคนก็จะคิดถึงวัยที่ต้องการการพักผ่อนมากที่สุด เนื่องจากการทำงานที่ยาวนานของชีวิตมาแล้ว แต่อย่าล...




“ วัยเกษียณ ” เมื่อพูดถึงคำนี้แล้วทุกคนก็จะคิดถึงวัยที่ต้องการการพักผ่อนมากที่สุด เนื่องจากการทำงานที่ยาวนานของชีวิตมาแล้ว แต่อย่าลืมว่าการใช้ชีวิตในทุกๆวันนั้นย่อมมีค่าใช้จ่ายเกิดขึ้น แล้วเงินออมของคุณนั้นเพียงพอที่จะใช้ไปตลอดชีวิตที่เหลือของคุณหรือไม่ ดังนั้นวัยเกษียณจึงต้องมีการลงทุน นำเงินออมของคุณบางส่วนมาลงทุนเพื่อให้เกิดรายได้เข้ามาบางอย่างน้อยก็เป็นการนำมาชดเชยกับรายจ่ายที่ยังคงมีอยู่หลังจากเกษียณ และแน่นอนว่าบทความที่เราจะมาพูดถึงกันนั้นก็คือ การลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ในวัยเกษียณอายุกัน

เมื่อพูดถึงวัยเกษียณกับการลงทุนแล้วล่ะก็ วัยนี้ถือได้ว่าเป็นวัยที่รับความเสี่ยงจากการลงทุนได้ต่ำ เพราะหลังจากเกษียณแล้วจะถือได้ว่าจะไม่ได้เงินเดือนทุกเดือนเหมือนตอนที่ยังทำงานอยู่ (ยกเว้นข้าราชการบำนาญ)  เงินที่ใช้ก็เกิดมาจากเงินออมที่เคยออมไว้ในตอนที่ยังทำงานอยู่ ดังนั้นจึงควรที่จะมีการวางแผนเพื่อให้ทรัพย์สินที่มีอยู่ หรือทุนเพียงพอที่จะสร้างรายได้ให้ในอนาคตหลังจากเกษียณอายุ ความพร้อมจากการวางแผนนั้นจะทำให้การลงทุนผิดพลาดน้อยลงและยังทำให้เกิดความเสี่ยงได้น้อยลงอีกด้วย

สำหรับการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ในวัยเกษียณเพื่อสร้างความมั่นคงให้กับผู้เกษียณเองนั้น ผู้ที่จะลงทุนจะต้องศึกษาความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้นจากการลงทุนให้มากเพราะอย่างที่บอกไปก่อนหน้านี้แล้วว่าวัยเกษียณเป็นวัยที่รับความเสี่ยงจากการลงทุนได้ต่ำ ดังนั้นการจะลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ควรที่จะเริ่มศึกษาการลงทุนตั้งแต่ก่อนเกษียณอายุ เพื่อเตรียมความพร้อมในด้านต่างๆหรืออาจจะมีการลงทุนล่วงหน้าเพื่อเป็นฐานให้กับการลงทุนเมื่อเกษียณอายุออกมาเราก็ไม่จำเป็นที่จะต้องมีความเสี่ยงมากนัก ก็ถือได้ว่าถ้าเราปูพื้นมาดีแล้วหลังจากนั้นเราก็จะมีรายรับจากสิ่งที่สร้างไว้ก่อนหน้านี้ แล้วสิ่งที่ผู้เกษียณอายุจะรู้ก่อนที่จะลงทุนนั้นมีอะไรบ้าง เรามาดูกัน 

อย่างแรกเลยคือ : รายรับที่เราจะมีหลังจากเกษียณ เพื่อที่เราจะสามารถจัดสรรเงินสำหรับการลงทุนได้และผลที่ได้จากการลงทุนด้วยเงินนั้นจะให้ผลตอบแทนกับเรามากน้อยเท่าไหร่ได้

ต่อมาคือ : รู้ค่าใช้จ่าย เมื่อรู้รายรับแล้วเราก็ต้องรู้ด้วยว่ารายจ่ายของเราเป็นเท่าไหร่ซึ่งแน่นอนว่าเมื่อเราเกษียณแล้วรายจ่ายหลายๆอย่างก็ควรที่จะลดลงไปบ้าง 

และอย่างสุดท้ายก็คือหาความรู้ ศึกษาข้อมูลการลงทุนและประเมินความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้นหลังจากลงทุน ว่าเรามีความสามารถที่จะรับได้มากน้อยเพียงใด  

เมื่อรู้อย่างนี้แล้วผู้ที่คิดที่จะลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ในวัยเกษียณนั้นจะต้องเริ่มวางแผนอนาคตไว้ล่วงหน้าได้แล้วเพื่อชีวิตที่สบายในวัยหลังเกษียณอายุ ขอให้มีความสุขกับการลงทุนในวัยเกษียณ....

TAG : การลงทุน , อสังหาริมทรัพย์ , ความเสี่ยงการลงทุน , วางแผนการลงทุน

คงปฎิเสธไม่ได้ว่าในขณะนี้คอนโดมิเนียมได้ผุดขึ้นมามากมายอย่างกับดอกเห็ด ไม่ว่าจะในเมืองหลวงอย่างกรุงเทพมหานคร หรือแม้กระทั้งในตัวเมื...




คงปฎิเสธไม่ได้ว่าในขณะนี้คอนโดมิเนียมได้ผุดขึ้นมามากมายอย่างกับดอกเห็ด ไม่ว่าจะในเมืองหลวงอย่างกรุงเทพมหานคร หรือแม้กระทั้งในตัวเมืองของต่างจังหวัด อาจจะเกิดมาจากการดำเนินชีวิตของคนในปัจจุบันที่เปลี่ยนไปมากกว่าแต่ก่อน คนส่วนมาเข้ามาทำงานในเกรุงเทพกันมากขึ้น ทำให้พื้นที่ในการอยู่อาศัยก็มีน้อยเมื่อเทียบกับจำนวนของประชากรที่เพิ่มขึ้น ดังนั้นการอาศัยอยู่คอนโนมิเนียมจึงได้รับความนิยมมากขึ้น ในผู้คนที่พอจะมีรายได้ปานกลางไปจนถึงมาก นั้นก็คงไม่แปลกที่ธุรกิจคอนโดมิเนียมจะได้รับการตอบรับที่ดี และแน่นอนสำหรับนักลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ก็เช่นกัน มีนักลงทุนจำนวนไม่น้อยทั้งมือใหม่และมือเก่าที่เลือกลงทุนกับคอนโดมิเนียม ไม่ว่าจะเป็นการขายต่อเพื่อเก็งกำไรหรือปล่อยให้เช่า การลงทุนในคอนโนมิเนียมนั้นก็ถือได้ว่าเป็นการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ประเภทหนึ่ง และในบทความนี้เราก็จะมาบอกถึงเหตุผลที่คุณน่าจะลงทุนในคอนโดมิเนียม โดยผู้เขียนบทความได้เลือก 5 เหตุผล เพื่อใช้ในการประกอบการตัดสินใจของผู้ที่สนใจในการลงทุนในคอนมิเนียม ได้ดังนี้

1. ปล่อยให้เช่าได้ อย่างที่บอกไว้ก่อนหน้านี้ว่าคนส่วนมากในสมัยนี้มีความเป็นอยู่ที่ต่างจากสมัยก่อนมาก ดังนั้นการปล่อยให้ผู้ที่สนใจเช่านั้นก็ถือว่าเป็นตัวเลือกที่ดี แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นทำเลที่ตั้งของคอนโนมิเนียมก็ต้องเป็นทำเลที่ดี ดีในที่นี้หมายถึงเป็นย่านที่มีคนอาศัยอยู่เยอะโดยเฉพาะคนทำงาน การเดินทางไปทำงานตัองสะดวกสบาย ถ้าคอนโดติดกับรถไฟฟ้า แหล่งช็อปปิ้ง หรือย่านของกิน อันนี้ก็ถือว่าดี 

2. เป็นการลงทุนแบบ Passive income  สำหรับข้อนี้ก็จะสืบเนื่องมาจากข้อข้างบนเลย ถ้าเรามีคนมาเช่าอย่างต่อเนื่อง นั้นก็จะเป็นรายได้ที่เราได้มาโดยไม่ต้องทำอะไรเลยหลังจากการลงทุนแค่ครั้งเดียวแต่ผลตอบแทนได้มาเรื่อยๆ

3. การลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ถูกจัดให้เป็นการลงทุนที่เอาชนะเงินเฟ้อได้ดีกว่าการฝากเงินกับธนาคาร ในสภาวะที่ค่าของเงินผันแปรไปตามสภาพเศรษฐกิจ ซึ่งการลงทุนในคอนโดมิเนียมก็ถือเป็นการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์อย่างหนึ่ง

4. ถึงแม้ว่าเราจะไม่หารายได้จากคอนโดมิเนียม มันก็ยังคงเป็นทรัพย์สินของเราอยู่ดี แน่นอนว่าเราอาจจะเป็นมาเป็นที่พักอาศัยของเราได้ ไม่ว่าจะอยู่อาศัยในระยะยาวหรือจะเอาไว้เมื่อเราไปพักผ่อนในสถานที่นั้นๆ และนอกจากนั้นแล้วเมื่อเราตายไปก็ยังสามารถโอนไว้เป็นของลูกหลานได้ 

5. ในกรณีที่ซื้อคอนโดมิเนียมเป็นเงินผ่อน เราแทบจะไม่ต้องเสียเงินเพื่อจากค่างวดนั้นเลย แล้วจ่ายจากไหนล่ะ ก็จ่ายจากการปล่อยให้เช่าไงทุกเดือนที่เราได้เงินจากค่าเช่าเราก็จะนำไปจ่ายค่างวด และเมื่อเราจ่ายครบแล้ว(ในกรณีนี้อาจจะเอาเงินของตัวเองช่วยด้วยทำให้หมดเร็วขึ้น) นอกนั้นก็ถือว่าเป็นกำไร 

เห็นมั้ยล่ะว่าการลงทุนในคอนโดมิเนียมนี้น่าสนใจขนาดไหน รอช้าอยู่ทำไม ออกไปเดินหาทำเลทองเพื่อจับจองคอนโดมิเนียมเพื่อการลงทุนกันดีกว่า และก็อย่าลืมวางแผนการเงินของท่านด้วยเพื่อป้องกันความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้นจากการลงทุน ขอทุกท่านให้โชคดี

TAG : การลงทุนที่ดิน , การลงทุนคอนโด , การลงทุนตึกแถว , การลงทุนทาวน์เฮ้าส์

อสังหาริมทรัพย์ อันเป็นหนึ่งในปัจจัย 4 ของมนุษย์  เป็นที่อยู่อาศัย  ใช้ประกอบธุรกิจหรือทำการค้า  ที่ทำกิน ซึ่งเป็นปัจจัยการผลิตที่ส...




อสังหาริมทรัพย์อันเป็นหนึ่งในปัจจัย 4 ของมนุษย์  เป็นที่อยู่อาศัย  ใช้ประกอบธุรกิจหรือทำการค้า  ที่ทำกิน ซึ่งเป็นปัจจัยการผลิตที่สำคัญ  ความต้องการอสังหาริมทรัพย์จึงมีแนวโน้มสูงขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งสัมพันธ์กับจำนวนประชากร  หากเราต้องการลงทุนในสินทรัพย์ประเภทใดนั้น  เราจึงควรศึกษาหาข้อมูลเพิ่มเติมให้มากที่สุด  การลงทุนในอาคารพาณิชย์ก็เช่นเดียวกัน  ปัจจุบันแหล่งข้อมูลสามารถมีให้ค้นหาได้อย่างสะดวกจากอินเตอร์เนต  แต่ปัจจัยสำคัญที่สุดของการลงทุนในอาคารพาณิชย์คือทำเลที่ตั้ง ตัวผู้ลงทุนเองก็ควรสำรวจพื้นที่ที่สนใจลงทุนเพื่อทำการเปรียบเทียบกับราคาซื้อขาย  ราคาเสนอขาย  ทำเลที่ตั้ง  อัตราค่าเช่าในท้องตลาด

การลงทุนในอาคารพาณิชย์มีทั้งข้อดีและข้อเสีย

ข้อดี :
สามารถเป็นแหล่งทำมาหากิน สถานที่ทำการค้าหรือธุรกิจได้  สามารถใช้เป็นที่อยู่อาศัยได้  เป็นการลงทุนที่ให้ผลตอบแทนในระยะยาว ไม่ว่าจะประกอบกิจการร้านค้าเองหรือปล่อยให้เช่าก็ตาม  อัตราการปล่อยให้เช่าได้ในราคาที่สูงกว่าอัตราค่าเช่าของที่อยู่อาศัย  และสามารถปรับราคาค่าเช่าให้สูงขึ้นได้ตามสภาวะเศรษฐกิจและทำเลที่ตั้งยิ่งถ้าทำเลที่ตั้งอยู่ใจกลางเมือง มีลักษณะโดดเด่นกว่าอาคารพาณิชย์หลังอื่นๆแล้วยิ่งทำให้เราสามารถเรียกราคาให้สูงขึ้นไปอีก ซึ่งส่วนใหญ่อยู่ในย่านธุรกิจอยู่แล้ว สำคัญที่ว่าเรามีวัตถุประสงค์หรือเป้าหมายจะทำอะไร  มีสาธารณูปโภคครบครัน  เช่น  น้ำประปา  ไฟฟ้า โทรศัพท์  

ข้อเสีย : 
คือต้องใช้เงินลงทุนสูง  อาคารพาณิชย์มีราคาสูงกว่าราคาที่ดินที่เป็นอาศัย  หรือที่ดินเกษตรกรรมเนื่องจากการรวมค่าทำเลที่ดินเข้าไปด้วยกับตัวอาคารพาณิชย์  การลงทุนในอาคารพาณิชย์ต้องอาศัยความรู้  ทักษะในการตัดสินใจซื้อ  การซื้อแต่ละครั้งนั้นจำเป็นที่ต้องศึกษาและวิเคราะห์อย่างรอบด้าน เพราะการลงทุนประเภทนี้ใช้เงินลงทุนสูง  ข้อจำกัดอีกประการของอาคารพาณิชย์คือการมีพื้นที่ที่คับแคบ  การที่จะดำเนินการปรับปรุงหรือขยับขยายเป็นไปโดยจำกัด  การไม่มีที่จอดรถยนต์ส่วนตัว เป็นต้น 

ดังนั้นการตัดสินใจลงทุนในอาคารพาณิชย์ควรมองอย่างรอบด้าน และนี้ก็เป็นข้อดีข้อเสียตามที่ผู้เขียนบทความได้สรุปมาให้ เมื่อรู้ข้อดีข้อเสียของการลงทุนในอาคารพาณิชย์แล้วนั้นก็หวังว่าจะเป็นประโยชน์ในการตัดสินใจในการลงทุนกับอสังหาริมทรัพย์ประเภทอาคารพาณิชย์ได้มากขึ้น แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นผู้ที่จะลงทุนก็ควรที่จะศึกษาหาข้อมูลเพิ่มเติมในส่วนอื่นๆด้วยเพื่อให้แน่ใจว่าการลงทุนครั้งนี้จะให้ผลตอบแทนที่น่าพอใจให้แก่ผู้ลงทุนเอง ขอให้โชคดีกับการลงทุน


TAG : การลงทุนอาคารพาณิชย์ , การลงทุนในอพาร์ทเมนท์ ,  การลงทุนอสังหาริมทรัพย์ 

การลงทุนกับอาคารพาณิชย์ เป็นหนึ่งในการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ โดยทั่วไปแล้วมีทั้งการสร้างอาคารพาณิชย์ใหม่เพื่อขายหรือให้เช่า การซื้อ...




การลงทุนกับอาคารพาณิชย์เป็นหนึ่งในการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ โดยทั่วไปแล้วมีทั้งการสร้างอาคารพาณิชย์ใหม่เพื่อขายหรือให้เช่า การซื้ออาคารพาณิชย์ที่สร้างเสร็จแล้วเพื่อให้เช่าหรือจะขายเก็งกำไรในอนาคต และการซื้ออาคารพาณิชย์ต่อจากผู้อื่นหรือที่เรียกกันว่าซื้อมือสองมาเพื่อทำการปรับปรุงเอาไว้ให้คนที่สนใจมาเช่า 

อย่างที่รู้กันว่าการจะลงทุนกับอาคารพาณิชย์ให้ประสบความสำเร็จทำกำไรนั้นไม่ได้ง่าย แต่ก็ไม่ใช่เรื่องยากจนเกินไปสำหรับผู้ที่ศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับการลงทุนกับอาคารพาณิชย์มาดีแล้ว และสำหรับบทความนี้ผู้เขียนจะพาไปดูวิธีการทำกำไรกับการลงทุนในอาคารพาณิชย์กันโดยจะสรุปออกเป็น 5หัวข้อใหญ่ดั้งนี้

1. ทำเลที่ตั้ง สิ่งเป็นเป็นปัจจัยหลักๆเลยที่มีผลต่อการลงทันกับอาคารพาณิชย์โดยตรง เนื่องจากการมีทำเลที่ตั้งดีนั้นจะเป็นสิ่งที่ดึงดูดผู้คนจำนวนมากให้มาสนใจอาคารพาณิชย์ของเรา ซึ่งผู้คนเหล่านั้นอาจจะมาเป็นลูกค้าของเราในอนาคตได้ สำหรับทำเลที่ตั้งที่จะสามารถดึงดูดคนได้นั้นจะต้องเป็นทำเลที่เป็นที่สัญจรของผู้คนหรือมีผู้คนพลุกพล่านนั้นเอง นอกจากนั้นที่ตั้งจะต้องโดดเด่น สะดุดตา ยิ่งเป็นที่ที่สามารถติดป้ายโฆษณาให้เช่าบนดาดฟ้าได้นั้นยิ่งจะทำให้เรามีรายได้มากขึ้น เห็นมั้ยว่าทำเลที่ตั้งถือว่าเป็นสิ่งสำคัญสำหรับการลงทุนประเภทนี้

2. การปรับปรุง ในกรณีนี้สำหรับการซื้ออาคารพาณิชย์มือสอง การปรับปรุงถือว่ามีส่วนที่จะทำให้เรามีกำไร การซื้ออาคารต่อจากผู้อื่นแน่นอนว่าสภาพของอาคารจะไม่ใช้100เปอร์เซ็นต์แน่นอน แล้วถ้าเราจะให้เช่าหรือขายต่อนั้นก็จะไม่ทำกำไรทำที่ควรแต่การที่เราจะเพิ่มมูลค่าให้กับอาคารได้นั้นก็คือการปรับปรุงเพื่อให้อาคารพาณิชย์พร้อมขายหรือให้เข่ามากขึ้นนั้นเอง

3. การปล่อยให้เช่า ถ้าคุณมีอาคารพาณิชย์ที่มีทำเลที่ตั้งดีแล้วล่ะก็การปล่อยให้คนที่สนใจเช่านั้นก็ถือว่าเป็นการทำกำไรแบบระยะยาวได้เช่นกัน 

4. ขายต่อ  มีนักลงทุนจำนวนไม่น้อยที่มักจะซื้ออาคารพาณิชย์มาแล้วทำการปรับปรุงบางส่วนเพื่อให้อาคารพาณิชย์นั้นสามารถขายต่อให้ได้กำไรเพิ่มขึ้น 

5. การประกอบกิจการของเจ้าของเอง แน่นอนว่าถ้าคุณได้เป็นเจ้าของอาคารพาณิชย์สักหลังแล้ว ปล่อยเช่าแล้ว จนกระทั้งถึงจุดหนึ่งที่คุณต้องการที่จะมีกิจการเป็นของตัวเอง อาคารพาณิชย์ที่คุณเป็นเจ้าของอยู่ก็จะสามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้ทันทีโดยกำไรที่ได้นั้นอาจจะไม่ได้เกิดจากตัวอาคารเองแต่กำไรที่เกิดขึ้นนั้นมาจากการดำเนินกิจการของเจ้าของเอง แต่นี้ก็ถือว่าเป็นการทำกำไรทางอ้อมได้เหมือนกัน

TAG : การลงทุนอาคารพาณิชย์ , การลงทุนในอพาร์ทเมนท์ ,  การลงทุนอสังหาริมทรัพย์ 

กำไรส่วนต่างของอสังหาริมทรัพย์เกิดขึ้นเมื่อใด ???? หลายต่อหลายคนอาจคิดถึงภาพตอนขายว่าจะขายได้ในราคาเท่าไหร่ แต่ในความเป็นจริงแล้วกำ...




กำไรส่วนต่างของอสังหาริมทรัพย์เกิดขึ้นเมื่อใด ???? หลายต่อหลายคนอาจคิดถึงภาพตอนขายว่าจะขายได้ในราคาเท่าไหร่ แต่ในความเป็นจริงแล้วกำไรส่วนต่างของอสังหาริมทรัพย์เกิดขึ้นสองครั้ง 

ครั้งแรกกำไรส่วนต่างเกิดขึ้นในตอนซื้อหมายความว่าหากเราซื้ออสังหาริมทรัพย์นั้นได้ในราคาถูก หรือเราสามารถต่อรองราคาได้ราคาต่ำกว่าราคาในท้องตลาด ซึ่งในสถานการณ์เช่นนี้เราจะพบได้บ่อยเมื่อผู้ขายมีความจำเป็นเร่งด่วนในการใช้เงิน  ผู้ขายย้ายถิ่นที่อยู่อาศัยหรือย้ายสถานที่ทำงาน  การซื้อขายระหว่างญาตพี่น้อง  หรือแม้แต่การซื้อทรัพย์จากบังคับคดีเอง  แล้วเราจะรู้ได้อย่างไรว่าทรัพย์สินที่เราซื้อนั้นมีราคาสูงหรือต่ำ  เราสามารถหาความรู้เพิ่มเติมหรือราคาทรัพย์สินนั้นในราคาคร่าวๆ จากราคาประเมินทุนทรัพย์ที่ดินของทางราชการว่ามีราคาเท่าไหร่  ซึ่งแน่นอนว่ายังไม่เพียงพอต่อการตัดสินใจว่าจริงๆ แล้วทรัพย์สินที่เราสนใจราคาเท่าในแน่  

ทางหนึ่งซึ่งควรทำอย่างยิ่งคือการออกสำรวจพื้นที่ที่ใกล้เคียงว่าระยะเวลาหนึ่งปี สองปี หรือสามปีที่ผ่านมามีการซื้อขายที่ดินบริเวณนั้นหรือไม่  และซื้อขายกันในราคาเท่าใด  นอกจากนี้การเสนอซื้อเสนอขายที่ดินบริเวณใกล้เคียงกันนั้นก็เป็นตัวกำหนดราคาอย่างคร่าวๆ ได้เช่นเดียวกัน  จากนั้นเราก็รวบรวมข้อมูลทั้งหมดที่เราไปลงสำรวจพื้นที่มาวิเคราะห์อย่างคร่าวๆ ว่าราคาที่เราจะซื้อนั้นเหมาะสมหรือไม่  ถูกหรือแพงเกินไป  ข้อดูอีกประการหนึ่งของการสำรวจพื้นที่บริเวณใกล้เคียงที่ดินแปลงที่เราสนใจซื้อคือเราสามารถทราบสภาพพื้นที่ว่าอยู่ใกล้แหล่งชุมชนไหม  ที่ผ่านบริเวณนี้เคยถูกน้ำท่วมไหม  เป็นพื้นที่ที่จะมีคนต้องการซื้อไหม  หากพื้นที่บริเวณนั้นกำลังเป็นที่ต้องการเราก็จะสามารถขายที่ดินได้อย่างไม่ยากนัก
ครั้งที่สองกำไรส่วนต่างเกิดขึ้นในตอนขาย  ซึ่งมีระยะเวลาเข้ามาเกี่ยวข้อง  ยิ่งถือครองที่ดินไว้ได้นานก็จะยิ่งทำให้ผลกำไรเพิ่มมากขึ้นเพียงนั้น  แต่ก็ไม่เสมอไปเสียเลยทีเดียว ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความสามารถของตัวผู้ขาย  รวมถึงความต้องการที่ดินบริเวณนั้น  สภาวะเศรษฐกิจโดยรวม  แต่โดยทั่วไปแล้วเวลาจะมีความสัมพันธ์กับราคาที่ดิน  เหตุผลสำคัญเนื่องจากทรัพยากรที่ดินที่มีอยู่อย่างจำกัด  ในขณะที่จำนวนประชากรเพิ่มขึ้นตลอดเวลาและที่ดินยังเป็นปัจจัยสำคัญทั้งด้านที่อยู่อาศัย ที่ทำกิน  เป็นปัจจัยการผลิตทุกอย่าง  ดังนั้นความต้องการอสังหาริมทรัพย์จึงมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นตลอดเวลาซึ่งเป็นเหตุผลหลักที่จะปฏิเศษไม่ได้เลยว่าราคาของอสังหาริมทรัพย์จะเพิ่มสูงขึ้นอย่างแน่นอน  

นอกจากนี้กำไรส่วนต่างของอสังหาริมทรัพย์จะมากหรือน้อยปัจจัยเรื่องทำเลที่ตั้งของตัวอสังหาริมทรัพย์เองจะเป็นตัวกำหนดราคาสูงหรือต่ำ  กำไรมากหรือน้อย


TAG : การลงทุน , อสังหาริมทรัพย์ , ความเสี่ยงการลงทุน , วางแผนการลงทุน

สำหรับคนทำงานประจำแล้วเวลาว่างเป็นอะไรที่หาได้ยากมากๆ ยิ่งถ้าทำงานในองค์กรที่มีวันหยุดแค่วันเดียวยิ่งทำให้เราแทบจะไม่ได้ทำอะไรเลย ว...




สำหรับคนทำงานประจำแล้วเวลาว่างเป็นอะไรที่หาได้ยากมากๆ ยิ่งถ้าทำงานในองค์กรที่มีวันหยุดแค่วันเดียวยิ่งทำให้เราแทบจะไม่ได้ทำอะไรเลย วันหยุด 1 วันก็ดูเหมือนว่าเวลาจะเร็วกว่าทุกๆวันอีก เฮ้อ!! นี่แหล่ะชีวิต และแน่นอนเมื่อคนที่ทำงานประจำทั่วไปคิดที่จะลงทุนอะไรสักอย่างล่ะ คิดไปคิดมา “แล้วชั้นจะเอาเวลาที่ไหนมาดูแล” 

ใช่!!เวลาดูเหมือนจะมีความสำคัญพอสมควรถ้าเราคิดที่จะลงทุนอะไรสักอย่าง ยกตัวอย่างเช่น ถ้าคุณคิดจะลงทุนในหุ้น หุ้นจะต้องมีเวลาในการดูกราฟ ศึกษาหุ้นตัวที่คุณจะซื้อ รอดูเวลาและจังหวะที่จะเข้าซื้อ-ขาย  หรือถ้าคุณจะลงทุนเปิดร้านอะไรสักอย่างถึงแม้ว่าคุณจะจ้างคนมาดูร้านแทนแต่คุณก็ต้องมีเวลาเข้าไปตรวจเช็คความเรียบร้อยของร้านอยู่ดี แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ยังมีการลงทุนอีกประเภทที่เราไม่จำเป็นที่จะต้องมีเวลามากนั้นก็สามารถที่จะทำรายได้ให้กับคุณได้ แล้วอะไรล่ะ? คำตอบนั้นก็คือการลงทุนในคอนโดมิเนียมนั้นเอง ซึ่งการลงทุนในคอนโดมิเนียมก็ถือว่าเป็นการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ประเภทหนึ่ง หลายคนอาจจะถามต่อว่าแล้วทำไมต้องเป็นคอนโดมิเนียม? ในเมื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์มันมีตั้งหลายอย่างให้ลงทุน ไม่ว่าจะเป็นที่ดิน บ้าน อาคารพาณิชย์ ฯลฯ 

ใช่!! ที่ถามมาก็มีส่วนถูก ก็อย่างที่ได้บอกไปแล้วว่าคนทำงานประจำส่วนใหญ่ไม่ได้มีเวลาว่ามากนักซึ่งการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ตัวอื่นๆนั้นต้องมีเวลาในการดูแลทรัพย์สินนั้นแต่การลงทุนในคอนโดมิเนียมนั้นไม่ต้องอาศัยการดูแลมากนักเท่ากับอสังหาริมทรัพย์ตัวอื่นนั้นเองจึงทำให้การลงในทุนในคอนโดมิเนียมสำหรับคนทำงานประจำวันนั้นดูจะเป็นอะไรที่ลงตัว เนื่องจากคอนโดมิเนียมจะมีนิติบุคคลคอยช่วยดูแล เพราะเราไม่ได้สร้างเองแต่เราซื้อห้องเพื่อปล่อยเช่า ถ้ามีปัญหาเกี่ยวกับห้องเราก็สามารถโทรแจ้งได้เขาก็จะเข้าไปจัดการให้ นานๆทีเราอาจจะสละเวลาสักนิดมาดูห้องบ้างว่ายังดีอยู่มั้ยคนเช่าคนเก่าไม่ได้ทำอะไรเสียหายใช่มั้ยเพราะเตรียมห้องไว้สำหรับคนเช่าคนใหม่ เห็นมั้ยล่ะว่าแทบจะไม่ต้องเสียเวลาอะไรมากมายเลย เอาเวลาวันหยุดของเราอยู่กับครอบครัวหรือพักผ่อนชาร์ตแบตให้กับตัวเองดีกว่า ได้ทั้งความสุขแถมยังมีรายได้เข้ากระเป๋าอีก 

และอีกสิ่งหนึ่งที่คนทำงานประจำที่คิดจะลงทุนในคอนโดมิเนียมนั้นจะต้องคำนึกถึงนั้นก็คือทำเลที่ตั้งของคอนโดจะต้องเดินทางสะดวกเป็นแหล่งของคนทำงาน ตำแหน่งห้อง มีวิวสวยและจะต้องไม่โดนแสงแดดส่องมากเกินไป เพียงเท่านี้ก็จะทำให้คอนโดมิเนียมของคุณมีคนเข้ามาเช่าอย่างไม่ขาดสายแล้ว 

TAG : การลงทุนที่ดิน , การลงทุนคอนโด , การลงทุนตึกแถว , การลงทุนทาวน์เฮ้าส์


ปัจจุบันราคาที่ดินในเมืองใหญาๆ โดยเฉพาะในเขตกรุงเทพมหานคร ราคาที่ดินได้มีการปรับตัวสูงขึ้นอย่างมาก  โดยเฉพาะในย่านธุรกิจ  เช่น  ถนน...




ปัจจุบันราคาที่ดินในเมืองใหญาๆ โดยเฉพาะในเขตกรุงเทพมหานคร ราคาที่ดินได้มีการปรับตัวสูงขึ้นอย่างมาก  โดยเฉพาะในย่านธุรกิจ  เช่น  ถนนสีลม  ถนนราชดำริ  ถนนเพลินจิต  ถนนเยาวราช  ซึ่งปัจจุบันราคาซื้อขายกันในท้องตลาดต่อตารางวาก็เป็นราคาหลักล้านแล้ว ดังนั้นการจะหาที่อยู่อาศัยเป็นบ้านหลังงามๆ สักหลังคงเป็นไปได้ยาก  ทางเลือกที่ดีที่สุดในการหาที่พักอาศัยใรปัจจุบันคงหนีไม่พ้นคอนโดมิเนียมหรือห้องชุด  ซึ่งในเมืองหลวงหรือในเขตเมืองใหญ่ๆ ที่ต้องเผชิญปัญหาการจราจรติดขัด ปัญหาราคาน้ำมันที่ปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง  ประกอบกับรัฐบาลมีนโยบายขยายเส้นทางรถไฟฟ้าหลายเส้นทางไปยังบริเวณรอบนอกตัวเมือง  คอนโดมิเนียมจึงฝุดขึ้นตามแนวเส้นทางรถไฟฟ้าเป็นจำนวนมาก  และได้รับความนิยมจากคนรุ่นใหม่ที่ต้องการความเป็นส่วนตัว  รวมทั้งรูปแบบการใช้ชีวิตที่เปลี่ยนแปลงจากการอยู่อาศัยรวมกันเป็นครอบครัวใหญ่เป็นครอบครัวเดี่ยว  

ความสะดวกสบายในการเดินทางก็เช่นเดียวกัน  เนื่องจากคอนโดมิเนียมส่วนใหญ่ทำเลติดห้างสรรพสินค้า  ติดสวนสาธารณะ  ติดมหาวิทยาลัย อยู่ซุปเปอร์มาเก็ตหรือศูนย์การค้า  มีฟิตเนต  มีสาธารณูปโภคครบครัน  แม้นกระทั่งระบบรักษาความปลอดภัยก็มากันแบบหลายชั้น  ทั้งระบบคีย์การ์ดเข้าตัวอาคาร กล้องวงจรปิดในหลายจุด  ยามรักษาความปลอดภัย  ฯลฯ  ดังนั้นการหาคอนโดมิเนียมเพื่อพักอาศัยสักห้องหรือเพื่อการลงทุน ก็จัดเป็นทางเลือกที่คุ้มค่าไม่น้อยแต่เราจะตัดสินใจเลือกซื้อคอนโดมิเนียมช่วงเวลาไหนเพื่อให้ซื้อได้ในราคาถูกที่สุดหรือทำกำไรได้สูงสุดก็เป็นเรื่องที่ไม่ง่ายเลย เพราะต้องพิจารณาถึงองค์ประกอบหลายๆ อย่าง  แต่สิ่งสำคัญคือการพยายามซื้อคอนโดมิเนียมในราคาถูกกว่าท้องตลาดมากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้  การเลือกช่วงจังหวะเวลาการซื้อที่เหมาะสม  ซึ่งช่วงเวลาดังกล่าวมี 3 ช่วงเวลาด้วยกัน

1. ช่วงก่อนหรือ Pre-sales เป็นช่วงที่ขายกระดาษเปล่าๆ ซึ่งในช่วงนี้ผู้ประกอบการส่วนใหญ่จะมีข้อเสนอในการลดราคาพิเศษ ซึ่งส่วนใหญ่ก็ลดกันเป็นหลักแสนเลยทีเดียว  การซื้อในช่วงเวลานี้ตัวผู้ซื้อเองควรตรวจสอบว่าได้รับอนุญาตในการก่อสร้างหรือยัง  เลขที่โฉนดที่ตั้งอาคารชุด  ชื่อผู้ถือกรรมสิทธิ์ในที่ดิน  ตรงกับที่โฆษณาไว้

2. ช่วงการก่อสร้างเกือบเสร็จใกล้วันครบกำหนดโอน  ช่วงนี้จะมีนักเก็งกำไรที่ซื้อใบจองไว้แต่ไม่ต้องการรับโอนก็จะนำนำเอาห้องออกมาขาย  ซึ่งบางครั้งก็ขายขายทุนหรือขายเท่ากับราคาตอนเปิดโครงการใหม่

3. ช่วงที่โครงการก่อสร้างเสร็จแล้วมีการโอนกรรมสิทธิ์กันเกือบหมดแล้ว  แต่ก็มีบางห้องที่ขายไม่หมด  ซึ่งผู้ประกอบการก็จะมีข้อเสนอส่วนลดให้เป็นจำนวนมาก  ซึ่งช่วงเวลานี้ควรตรวจสอบว่ามีการจดทะเบียนอาคารชุดแล้วหรือไม่

ซึ่งทั้งสามช่วงเวลาดังกล่าวจะทำให้ผู้ต้องการซื้อคอนโดมิเนียมได้ในราคาถูก  ซึ่งก็หมายถึงการทำกำไรสูงสุดนั่นเอง  แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับช่วงจังหวะ เวลา โอกาสในการซื้อ  และสภาวะเศรษฐกิจในช่วงนั้นๆ 

TAG : การลงทุนอสังหาริมทรัพย์ , การลงทุนคอนโด , ลงทุนคอนโดมือสอง

เมื่อพูดถึงการลงทุนที่ให้ผลตอบแทนระยะยาว  คงมีให้เลือกลงทุนได้ไม่กี่อย่าง  หนึ่งในนั้นก็คือการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ ในรูปแบบต่...




เมื่อพูดถึงการลงทุนที่ให้ผลตอบแทนระยะยาว  คงมีให้เลือกลงทุนได้ไม่กี่อย่าง  หนึ่งในนั้นก็คือการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ ในรูปแบบต่างๆ เช่น บ้านให้เช่า  ทาวน์เฮ้า  ตึกแถว  คอนโด  อพาตเม้นต์  หอพักให้เช่า  ซึ่งการลงทุนลักษณะนี้หลายคนบอกว่าเป็นการลงทุนแบบน้ำซึมบ่อทราย  ซึ่งก็หมายถึงการตักตวงไม่มีวันหมดสิ้น  การได้มาเรื่อยๆ  ถึงได้น้อยแต่ก็ไม่ขาด  ทั้งนี้การจะเลือกลงทุนในทรัพย์สินประเภทใดนั้น  สิ่งสำคัญคือต้องดูระดับความสามารถของตนเอง  ความเหมาะสม  ความชอบในสินทรัพย์นั้นๆ ความสามารถในการผ่อนชำระเงินต้นและดอกเบี้ยก็เป็นตัวแปรที่สำคัญที่ควรคำนึงถึง เพราะการลงทุนทุกอย่างทุกประเภทย่อมมีดีมีเสียมีจุดอ่อนจุดแข็งในตัวเองทั้งนั้น  การลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ก็เช่นเดียวกัน  แม้จะให้ผลตอบแทนสูงแต่ก็ใช้ต้นทุนที่สูงเช่นกัน  หากต้องผ่อนชำระธนาคารก็ใช้ระยะเวลายาวนานมากกว่าจะผ่อนชำระหนี้ได้หมด 

ดังนั้นหากอยากลงทุนในอสังหาริมทรัพย์แบบกินไม่หมดจริงๆ  สิ่งสำคัญที่สุดคือ  Location  Location และ Location  ซึ่ง Location จะดีหรือไม่นั้นปัญหาว่าเราพิจารณาอะไรบ้าง  โดยความสำคัญแล้วเราควรพิจารณาการเข้าถึงเป็นอันดับแรก ที่ตั้งต้องติดถนนหลัก ถนนรอง  หรือซอยทาง  ความกว้างของถนน สภาพถนน  การพิจารณาด้านสภาพแวดล้อม  ว่าเป็นทำเลประเภทใดพาณิชยกรรม  พักอาศัย  หรืออุตสาหกรรม  อยู่ใกล้สาธารณูปการอะไรบ้าง  เช่น ตลาด  โรงพยาบาล  มหาวิทยาลัย  ศูนย์ราชการ สาธารณูปโภคมีพร้อมหรือไม่  ข้อจำกัดด้านกฎหมายมีหรือไม่  สำคัญที่สุดคือวัตถุประสงค์ต้องการทำอะไร  เราสนใจสินทรัพย์ประเภทใด  เราควรเลือกทำเลที่คนนิยม เช่นทำเลที่คนนิยมค้าขาย  ทำเลที่คนนิยมอยู่อาศัย  ทำเลที่การเกษตรให้ผลผลิตดีน้ำดีต้นทุนการผลิตต่ำ  หรือทำเลที่กำลังจะมีความเจริญเติบโตด้านเศรษฐกิจ  การออกพื้นที่เพื่อทำการสำรวจที่ดินก็เป็นสิ่งที่เราควรใส่ใจเป็นอย่างมากเพื่อให้ทราบระดับราคาที่ซื้อขายที่ดิน  ทราบสภาวะเศรษฐกิจ  ในบริเวณที่เราสนใจการปรับปรุงสินทรัพย์ของเราให้มีความน่าอยู่อาศัย มีความปลอดภัย มีความสะดวกสบาย เพื่อที่เราจะได้ไม่พลาดโอกาสในการหารายได้จากอสังหาริมทรัพย์แบบกินไม่หมดจริงๆ 


TAG : การลงทุนที่ดิน , การลงทุนคอนโด , การลงทุนตึกแถว , การลงทุนทาวน์เฮ้าส์

แน่นอนว่าในยุคปัจจุบันการเป็นมนุษย์เงินเดือนนั้นนอกจากจะหาเงินได้ในแต่ละเดือน หักค่าใช้จ่ายต่างๆ ออกไป ออมไว้บางส่วนแล้วก็แทบที่...





แน่นอนว่าในยุคปัจจุบันการเป็นมนุษย์เงินเดือนนั้นนอกจากจะหาเงินได้ในแต่ละเดือน หักค่าใช้จ่ายต่างๆ ออกไป ออมไว้บางส่วนแล้วก็แทบที่จะไม่พอใช้กันเลยทีเดียว และเนื่องจากความต้องการที่เพิ่มมากขึ้นของมนุษย์เงินเดือนในปัจจุบันนี้ ทำให้เราเกิดความคิดที่จะนำเงินออมบางส่วนที่มีนั้นมาลงทุนโดยการลงทุนหากจะค้นหาข้อมูลในอินเทอร์เน็ตแล้วก็คงมีหลากหลายทางเลือกทีเดียว แต่การลงทุนอย่างหนึ่งที่น่าสนใจไม่น้อยนั้นก็น่าจะเป็นการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ 

“อสังหาริมทรัพย์”  เมื่อได้ยินคำนี้แล้วคนส่วนมากมักจะคิดว่า เป็นไปไม่ได้หรอก มนุษย์เงินเดือนอย่างเราจะลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ ต้นทุนมันสูงจะตาย มีแต่พวกคนรวยเท่านั้นที่จะลงทุนได้ แต่ในความเป็นจริงแล้วถ้าเรามาทำความรู้จักกับการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ดีๆแล้วนั้นคุณจะรู้ว่ามนุษย์เงินเดือนอย่างเราก็สามารถลงทุนได้  และในระยะเวลาที่ผ่านมาไม่นานนี้คนทั่วไปจำนวนไม่น้อยเลยที่มีความสนใจในการลงทุนประเภทนี้

แล้วอะไรล่ะที่จะทำให้มนุษย์เงินเดือนอย่างเราสนใจอยากลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ ก็เนื่องด้วยเจ้าอสังหาริมทรัพย์นั้นมีความแตกต่างจากการลงทุนประเภทอื่นๆ นั้นก็คือ 

1. มีมูลค่าเพิ่มขึ้นเมื่อเวลาผ่านไป  หรือจะพูดง่ายๆคือ ราคาของที่ดินจะเพิ่มขึ้นนั้นเอง ยิ่งถ้าที่ดินที่เราถือครองอยู่นั้นทำเลที่ตั้งเป็นที่ต้องการของคนส่วนมาก ก็จะยิ่งทำให้มูลค่าเพิ่มมาขึ้น 

2. สามารถสร้างผลประโยชน์อื่นตอบแทนได้นอกเหนือจากการปล่อยทิ้งไว้ให้มูลค่าเพิ่ม ลองคิดดูว่าถ้าเราเอาที่ดินหรือบ้านให้คนอื่นเช่า เราก็จะมีรายรับทุกๆเดือน

นอกจากความแตกต่างดังกล่าวแล้วรูปแบบในการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ก็ถือว่าสำคัญเช่นกัน มีอะไรกันบ้างเรามาดูกัน

1. ซื้อเพื่อให้เช่า เช่นซื้อคอนโด หรืออาคารพาณิชย์เพื่อให้เช่าเป็นการลงทุนระยะยาวเมื่อให้มีรายได้จากการให้เช่าเป็นงวดๆ ก็คือถ้าใครอยากมีรายรับทุกเดือนเราก็ปล่อยอสังหาริมทรัพย์ส่วนนี้ให้กับผู้ที่สนใจเช่าก็ถือว่าตอบโจทย์ได้ดีทีเดียว

2. ซื้อเพื่อเอาไว้เก็งกำไร รูปแบบนี้เป็นการลงทุนระยะสั้น ซื้อสังหาริมทรัพย์ที่มีราคาทุนที่ต่ำ โดยผู้ซื้อจะต้องดูว่าในปัจจุบันอสังหาริมทรัพย์ชิ้นนี่มีทำเลที่ตั้งที่ดี ในอนาคตจะเป็นที่ต้องการของบุคคลทั่วไป และจะทำให้มูลค่าของอสังหาริมทรัพย์เพิ่มขึ้นนั้นเอง 

เมื่อเราเห็นความแตกต่างและรูปแบบของการลงทุนประเภทนี้แล้ว ก็น่าจะกระตุ้นความอยากลงทุนในอสังหาริมทรัพย์อยู่ไม่น้อย แต่อย่างไรก็ตามการลงทุนทุกประเภทมีความเสี่ยงอยู่ ดังนั้นเราควรศึกษาความเสี่ยงของการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ด้วย เพื่อประกอบการตัดสินใจในการลงทุน 


TAG : การลงทุน , อสังหาริมทรัพย์ , ความเสี่ยงการลงทุน , วางแผนการลงทุน

ขับเคลื่อนโดย Blogger.